ทนายเดชา-หมอวรงค์ ซัดแรงเงินดิจิทัล ไม่มีทางทำได้ผิดรัฐธรรมนูญ
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ บอกว่า การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่าจะออก พ.ร.บ. เงินกู้ 500,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาของกฤษฎีกา เป็นการซื้อเวลาทางการเมืองรัฐบาลต้องถามกฤษฎีกาก่อนว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะมาตรา 140 เขียนไว้ชัด ว่าการจะนำเงินหลวงไปใช้ต้องคำนึงถึงกฎหมายงบประมาณ วินัยการเงินการคลัง ยกเว้นกรณีจำเป็นเร่งด่วน
"หมอวรงค์" ชี้ปล่อยภาพ "ทักษิณ" ตบตาประชาชน
ทนายดังจี้ตรวจสอบกิจกรรมลุงพลเดินแสวงบุญ เรี่ยไรเงินเข้าวัดพระธาตุพนม
ซึ่งกรณีแจกเงินดิจิทัล ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน และ ในอดีตสมัยรัฐบาล น.สคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ศาลรัฐธรรมนูญเคยตีตกพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ไปแล้ว เนื่องจากขัดกับรัฐธรรมนูญ ดังนั้นโอกาสที่ประชาชนจะได้เงิน 10,000 บาท น้อยมากเป็นเพียงแค่เทคนิคการหาเสียงเพื่อยื้อเวลาอยู่ในอำนาจแค่นั้นเอง
นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท สงสัย! เอื้อผลประโยชน์ให้นายทุนใหญ่หรือไม่ ? พร้อมแฮชแท็ก #แจกเงินบาททิพย์10,000บาท
นายแพทย์วรงค์ ระบุว่า หลังจากนายกเศรษฐาแถลง โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 50ล้านคน วงเงิน 5แสนล้านบาท ทุกอย่างก็เป็นไปตามคาดคือ
1.เคยบอกว่าไม่ต้องกู้เงิน จะใช้วิธีเกลี่ยงบประมาณ แต่สุดท้ายก็ต้องกู้ แบบนี้กกต.จะว่าอย่างไร เพราะเขาโกหกทั้งกกต.และโกหกประชาชน 2.การกู้ครั้งนี้ ใช้วิธีออกพรบ.เงินกู้ห้าแสนล้านบาท เขาไม่เร่งกู้ เนื่องจากไม่ได้แจกเงินสด แต่แจกเป็นเงินดิจิทัล กว่าจะเอาเงินดิจิทัล มาขึ้นเป็นเงินบาท ต้องรออย่างน้อย 6 เดือน เขาจึงกู้ด้วยพรบ.ได้
3.ในระหว่างการใช้เงินดิจิทัลนี้ แม้จะกำหนดค่าเงิน1บาทดิจิทัลมีมูลค่า 1 บาทจริง แต่ไม่มีเงินบาทจริงรองรับ ในช่วง 6 เดือนที่ใช้ เงินดิจิทัลจึงกลายเป็นเงินบาททิพย์หรือเงินกงเต๊ก
4.ต้องตอกย้ำว่า แม้จะกำหนดให้ทุกร้านค้า สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้ แต่ร้านค้าชาวบ้าน ตลาดนัด แผงลอย เขาต้องมีเงินบาทจริงใช้ด้วย ไม่สามารถรอ 6 เดือนไปขึ้นเงินได้ เพราะเขาสายป่านสั้น ผลประโยชน์ก็จะตกกับร้านนายทุนใหญ่( ที่สำคัญคือร้านย่อยไม่อยู่ในระบบภาษี แสดงว่าเข้าร่วมได้แต่ขึ้นเงินไม่ได้)
5.ยิ่งมากำหนดว่า ใช้ซื้ออาหารเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น ห้ามจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเรียน ค่าเทอม ค่าแก๊ซ ค่าเชื้อเพลิง สินค้าออนไน์ แอลกอฮอล์ ใช้หนี้ ขึ้นเงินสด สุดท้ายจะเกิดขบวนการรับแลกเงินสด โดยใช้เงินทั้งสีขาวและสีเทา
บทสรุป โครงการนี้คนรวยที่เป็นเจ้าของกิจการอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภค บริโภค ได้ประโยชน์สูงสุด รองลงมาเครือข่าย คนใกล้ชิดนักการเมืองที่จะรับแลกเงินจากชาวบ้าน ส่วนประชาชนได้บ้าง ร้านค้ารายย่อยได้น้อยมาก แต่ประเทศบอบช้ำ สุดท้ายลูกหลานต้องมาใช้หนี้
ไหนๆจะกู้แล้ว ทำไมไม่รอให้ได้เงินมา และแจกเป็นเงินสดไปเลย มีอะไรแอบแฝงเรื่องเงินดิจิทัล(โทเคน) หรือไม่หรือในแสนล้านบาทที่แยกต่างหาก มีค่าทำซูเปอร์แอปแอบแฝงในนี้ด้วย แต่ไม่บอกประชาชน